กฎหมายฉลากเครื่องสำอางที่คุณต้องรู้

กฎหมายฉลากเครื่องสำอาง ที่คุณต้องรู้

( กฎหมายฉลากเครื่องสำอาง ที่คุณต้องรู้)หากคุณ มีความสนใจในธุรกิจเครื่องสำอาง นอกจากที่คุณจะรู้ส่วนผสมของเครื่องสำอางแล้ว คุณจะต้องมีความรู้ในเรื่องของกฎหมายฉลากเครื่องสำอางด้วย ก่อนที่จะออกมาวางจำหน่ายให้กับลูกค้า เพราะในยุคนี้กฎหมายเกี่ยวกับธุรกิจ เครื่องสำอางมีความชัดเจน และมีความผิดขั้นร้ายแรง ดังนั้นคุณจะต้องเข้าใจในทุกระบบขั้นตอนก่อนที่จะสั่งโรงงานรับผลิตเครื่องสำอางตั้งแต่ กระบวนการผลิต,การขอเลขที่จดแจ้งจากสำนักงานองค์การอาหารและยา (อย.)กฎหมายฉลากเครื่องสำอาง และความรู้ในเรื่องการตลาดสร้างแบรนด์ให้เติบโต ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่จำเป็นที่คุณจะต้องทราบ ก่อนที่ผลิตเครื่องสำอาง เราไปดูกันดีกว่าว่ากฎหมายฉลากเครื่องสำอางมีอะไรบ้าง และสิ่งต้องห้ามในส่วนผสมของครีมและเครื่องสำอางมีอะไรบ้าง

กฎหมายฉลากเครื่องสำอาง

1. ผู้จดแจ้งขอให้คณะกรรมการเครื่องสำอางพิจารณาให้ความเห็นเกี่ยวกับฉลากเครื่องสำอาง พร้อมหลักฐานและเอกสารที่แนบมา
2. ให้ผู้จดแจ้งต้องชำระค่าธรรมเนียมคำขอตามที่กำหนดไว้
3. ให้สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาตรวจสอบคำขอและรายการเอกสารที่แนบมาให้แล้วเสร็จภายใน 7 วัน นับแต่วันที่ผู้จดแจ้งได้ยื่นคำขอและชำระค่าธรรมเนียม

คุณอาจสนใจบทความนี้ คลิกอ่าน รู้หรือไม่ ว่าใน ลิปสติก มีสารอันตรายที่ควรหลีกเลี่ยง

ฉลากเครื่องสำอาง ต้องมีข้อมูลดังนี้

• ชื่อเครื่องสำอาง หรือ ชื่อการค้า
• ประเภทของเครื่องสำอางหรือชนิดของเครื่องสำอาง
• ชื่อสารทุกชนิดที่เป็นส่วนผสม
• วิธีการใช้
• ข้อแนะนำหรือคำเตือน
• ชื่อสถานที่ผู้ผลิตหรือผู้นำเข้า
• ปริมาณสุทธิ
• เลขที่แสดงครั้งที่ผลิต
• เดือนปีที่ผลิต
• เดือนปีที่หมดอายุ
• เลขใบจดแจ้ง

สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่สำคัญมากที่อยู่บนฉลากเครื่องสำอาง ซึ่งก่อนที่คุณจะสั่งโรงงานรับผลิตเครื่องสำอาง คุณจะต้องคุยกับโรงงานให้เข้าใจในเรื่องของ กระบวนการผลิตและต้องมีฉลากเครื่องสำอางที่ ได้มาตรฐาน ซึ่งโรงงานที่มีคุณภาพจะต้อง ตรวจสอบ เครื่องสำอาง ก่อนที่จะส่ง จัดส่งจำหน่ายตรวจสอบสภาพ เช็ค เครื่องสำอางทั้งในเรื่องของคุณภาพฉลากเครื่องสำอางเป็นสำคัญ

เครื่องสําอางต้องห้ามในประเทศไทย

1. เครื่องสําอางที่ไม่ปลอดภัยสำหรับผู้บริโภค

• เครื่องสําอางที่ผลิตหรือใช้ภาชนะบรรจุไม่มีมาตรฐาน
• เครื่องสําอางที่มีสารอันตรายต่อผู้บริโภคเป็นส่วนผสม ซึ่งมีดังนี้ ยาปฏิชีวนะ,Asbestos, Azelaic acid, Anti-androgens of steroidal structure, Carbon tetrachloride, Chloroform, Ergocalciferol and cholecalciferol ,(vitamins D2 and D3),Estrogen, Formamide , Glucocorticoids, Hydroquinone ซึ่งจะต้องมีปริมาณตามที่ทางสำนักงานองค์การอาหารและยากำหนดไว้เท่านั้น

สำหรับข้อมูลที่กล่าวมานั้น ผู้รับผลิตเครื่องสำอาง จะต้องทราบ และไม่ใส่สารอันตรายลงในครีมหรือเครื่องสำอางอย่างเด็ดขาด และผู้ที่สั่งผลิตเครื่องสำอางจะต้องตรวจสอบโรงงานให้ดี และเลือกโรงงานผลิตครีมและเครื่องสำอางที่มีมาตรฐานเท่านั้น อย่าเห็นแก่ของถูกแล้วไปสั่งโรงงานเถื่อนเด็ดขาด เพราะอาจจะส่งผลกระทบทั้งต่อผู้บริโภคและเจ้าของแบรนด์เองด้วย ดังนั้นหากเลือกที่จะทำธุรกิจเครื่องสำอาง การเลือกโรงงานที่มีคุณภาพ สำคัญที่สุดเพื่อสินค้าของคุณได้รับการยอมรับจากลูกค้า ที่ใช้แล้วเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจน สินค้าได้รับการบอกต่อว่าดี และเติบโตอย่างยั่งยืนต่อไปในอนาคต

คุณอาจสนใจบทความนี้ คลิกอ่าน 5 ข้อควรรู้ก่อนการเลือกโรงงานผลิตครีม